22 ธันวาคม 2550

นี่ก็เป็นงานที่เคยทำส่งอาจานตอนเรียนปีที่แล้วคับดูเล่นๆไหลๆ

อันนี้เป็นงานVdO documentory วิชาAdvertising ที่อาจารย์ให้ไปทำเพื่อแนะนำสถานที่ แต่ด้วยอุปสรรคอันมากมายที่มันเข้ามาพร้อมกัน มันทำไห้การวางแผนที่จะพาไปเที่ยวหัวหินมากมาย จนหนทางในการที่จะทำงานนี้เกือบมองไม่เห็นทาง แต่เราก็ไม่ยอมย่อท้อ ยังไงเราก็จะต้องไปถ่ายทำกันให้ได้เพราะอีกสองวันต้องส่งงานวิชานี้แล้ว ทุกอย่างมันเริ่มจากการนัดเจอกันที่สายใต้ และกำลังจะไปถ่ายทำงานแต่มีเงินรวมกันไม่ถึงห้าร้อยบาท เราจะแก้ไขสถานการ ไปเรื่อยๆ แต่เนื้อหาไม่ใช่ประเด็นหลักของเรานะคับ ทั้งๆที่มันเป็นสิ่งที่อาจารต้องการ ทุกอย่าททุกกระบวนการ ทำโดยคนแค่สองคนพร้อมกับการตัดต่ออีกสามชั่วโมง ลองดูๆกระบวนการทำงานที่ไม่มีแบบแผนดูนะคับ

17 ธันวาคม 2550

"secound idia"

หลังจากที่ผมได้ลองจัดวางภาพอยู่ก็ทำไห้ได้รู้อีกอย่างนึงอีกว่า บางภาพที่วางอยู่กับพื้นแล้วถ่ายรูปมันอีกที มันต้องพยายามหามุมกล้องที่จะถ่ายให้พอดี
แต่พอถ่ายเส็ดแล้ว นำภาพมาดูมันทำให้ได้รู้ว่ารูปที่ถ่ายมาเอียงๆหรือรูปที่ใช้ช่วง wide มากๆมาถ่ายมันอีกที หรือจะเป็นแสงสะท้อนที่มันเกิดขึ้นจากผิว
ของกระดาษอัดรูป ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆใหม่ๆ บางครั้งสิ่งที่เราไม่ได้ตั้งใจดูหรือเราไม่ตั้งใจจะเห็นมันก็ทำให้เราได้เจออะไร แต่ถ้าเกิดเราตั้งใจทำ
ให้มันเกิดได้ก็น่าจะก้าวไปสู่ "third idia" ได้แต่มีงานชิ้นนึงที่ผมว่ามันน่าสนใจพิเศษเหมือนกันคือรูปข้างล่างนี้ง่ะคับ แล้วไว้เจอกันโอกาศหน้า แต่โอกาศมักมาตอนไม่ค่อยจะพร้อยเสมอ.

"Experimental"

จากการที่ได้ดูงานของ"Hockney"มาแล้วและก็ชอบงานของเขาด้วย แต่ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ที่เค้าถ่ายมาเค้าต้องการจะบอกอะไร รู้แต่ว่าการถ่ายภาพของเขานั้นมีเทคนิคนำเสนอที่แปลกใหม่และน่าสนใจดี ผมก็เลยตัดสินใจลองทำดูเองจิงๆดีกว่า เราอาจจะได้เห็นบางสิ่งบางอย่าง ที่อาจจะไม่สามารถพบเห็นเวลาที่ถ่ายภาพ ธรรมดา
แล้วมันก็ได้ทำไห้ผมเห็นอะไบางอย่างจิงๆเมื่อได้ลองถ่ายดูจิงๆ เช่น แค่การคิดที่จะเริ่มต้นถ่ายกดชัตเตอร์ครั้งแรกก็งงแล้ว ไม่รู้จะไปเริ่มถ่ายตรงไหนดี เพราะสถานที่ทีผมเลือกไปถ่ายนั้นมันคือ บริเวณหน้าลานพระรูปตรงสพานพุธ มันมีอะไรต่างๆที่ทำไห้เราสนใจมันมากมายไปหมด ทั้งลายพระรูป ที่มีแสงสี คนที่กำลังเล่น skatboard คนขายของขายเสื้อผ้า บากคลองตลาด หรือจะเป็นวัดแถวๆบริเวณนั้น ตอนแรกก็เริ่มถ่ายที่พระรูปก่อน
แต่ตอนหลังตัดใจเห้ยนี่ไหนๆมันก็เป็นการทดลองอยู่แล้ว ถ่ายมันไห้แหลกไปเลยดีกว่า เผื่อเจออะไรแปลกๆๆ
แล้วมันก็เจอสิ่งที่แปลกจิงๆด้วย สิ่งที่ว่ามันก็คือเรานี่เอง โง่นี่หว่าถ่ายมาซ่ะเยอะเลยเรียงไม่ถูก เปลืองไป!!!! แต่ไม่เป็นไรนี่มันคือการทดลอง
แต่เมื่อได้ภาพมาแล้ว เราก็จะมาทดลองกันอีกที ก็คือลองวางมันดูซิ แต่เนื่องจากที่ถ่ายมามันไมาได้คลอบครุมและต่อนเนื่องกันทั้งหมด เพราะตอน แรกกะจะถ่ายมาให้สามารถต่อกันจนครบเป็น360องศา จึงคิดว่าน่าจะลองมามองดูเป็นกลุ่มๆดีกว่า อันไหนที่มันอยู่ใกล้ๆกันก็ลองวางใส่เข้าไปดู
ลองดูกันเองดีกว่า ก็ลองวางตามแบบของ Hockney ดูก่อนแล้วกัน












"David Hockney"


กลับมาอีกครั้งกับการอัฟบล็อคที่แสนจะสนุกสนาน หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วพลาดไป วันนี้ผมก็อยากจะมานำเสนอให้ทุกๆท่นได้ทำความรู้จักกับ
ศิลปินผู้นึงคือ "David Hockney" โดยงานของเขานั้นค่อนข้างที่จะตรงกับเรื่ิองที่ผมกำลังสนใจ และกำลังศึกษาอยู่คือ"photomontage"
ก็พอดีอาจารย์มะลิแนะนำให้ผมลองไปหาข้อมูลของเขาดู

เดวิด ฮอว์คนี่ย์ ไม่เคยกลัวที่จะพูดถึงเรื่องงานศิลปและงานศิลปของเขาเองต่อหน้าสาธารณชน ในช่วงเวลาการทำงานที่ผ่านมา ฮอว์คนี่ย์ให้ความสนใจในวิธีการสร้างงานศิลปของเขาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ฮอว์คนี่ย์เป็นศิลปินนักวาดรูปที่เยี่ยมยอด แต่ในบ้างครั้งเขาก็รู้สึกตื่นเต้นไปกับความสามารถของเทคโนโลยี่ เช่น ในงานศิลปของเขาที่ใช้กล้องโพราลอยด์, เครื่องถ่ายเอกสารและเครื่องแฟกซ์ ในปี 1999 ฮอว์คนี่ย์ได้ไปชมผลงานของ อิงเกรส์ [Ingres] ที่พิพิธภัณฑ์ National Gallery เขาถึงกับตะลึงในความงามในงานวาดเส้นของอิงเกรส์ และอธิบายถึงงานของอิงเกรส์ที่มีความประณีตเหมือนกับใช้กล้องถ่ายภาพชั้นเยี่ยมว่า ‘ลายเส้นที่เด็ดขาดปราศจากความลังเล และเส้นสายที่เยี่ยมยอด ‘ ทำให้ฮอว์คนี่ย์เขียนภาพเหมือนตัวเองจำนวน 56 ภาพ รวมทั้งภาพเหมือนภาพนี้ด้วย และนี่คือผลงานจำนวน 4 ชิ้น ซึ่งสะท้อนความหลงใหลของเขาที่มีต่อการเขียนภาพ
1. งานวาดเส้นของอิงเกรส์เป็นภาพ นาง จอห์น แมคกี [Mrs John Mackie ] ซึ่งมีบันทึกอยู่ในไดอารี่ของลูกสาวเธอที่ชื่อ แอนนนา โซเฟีย [ Anna Sophia ] เมื่อวันที่ 9 เมษายน 1816 ที่กล่าวว่า คุณแม่ของเธอยินดีให้อิงเกรส์เป็นผู้วาดรูป และวันที่ 18 เมษายน 1816 ว่า คุณแม่บอกว่ารูปเขียนได้ดีมาก และดีใจมากที่ได้รูปนี้
2. ภาพเขียนเฟรสโกของแองเจลิโค [ Angelico ] ที่ชื่อ ‘คำประกาศที่โบสถ์เซนต์มาร์ค [‘ The Annunciation ’ in the Monastery of st. Mark’s ‘] ภาพนี้อยู่บนผนัง ซึ่งภาพส่วนใหญ่วาดอยู่ตามอารามพระเล็กๆ
3. ภาพพิมพ์แกะไม้ [ woodcut ] ของ Durer แสดงภาพของศิลปินกำลังวาดภาพพิณฝรั่ง [ lute ] กับเครื่องมือวัดขนาด [ปี คศ. 1525]
4. ภาพคนเล่นพิณ [The Lute Player] โดย Caravaggio ในปี คศ 1596 ผลงานทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความสนใจในงานเขียนภาพของเขาที่ว่า เครื่องมือทั้งหลายที่มีขายอยู่ทั่วไปนั้นจะมีส่วนในการสร้างงานศิลปได้ การใช้เครื่องมือเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ความเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ลดลงเลย เพราะสิ่งประดิษฐ์เกี่ยวกับการถ่ายภาพใดก็ตาม ไม่สามารถทำได้ สองมือเท่านั้นที่ใช้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะ

และนี่ก็เป็นตัวอย่างานของเขาที่ผมไปหามาดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งน่าสนใจมาก และผมนั้นเคยเห็นงานเค้ามาแล้วแบบผ่านๆแต่อาจยังไม่รู้ว่าเป็นใคร
และผมเองก็เคยลองถ่ายรูปเล่นๆในการถ่ายภาพในสไตล์นี้ พอได้มาเห็นงานเขาแบบเยอะก็เลยยิ่งสนุกและอยากที่จะทำงานมากขึ้น ลองไปดู
ตัวอย่างงานของเขาแล้วกัน แต่ผมไม่แน่นใจน่ะครับว่าเป็นงานของ Hockney ทั้งหมดหรือเปล่าเพราะบางรูปอาจเป็นงานของคนอื่นที่ทำคล้ายๆ
กับของเขา ผิดพลาดประการใดก็ขอโทษด้วยนะครับบบบบบบ














02 ธันวาคม 2550

"similar but different"


นี่ก็เป็น portrait ของผม ทั้งในทรรศนะคติของตัวเองและของอาจารย์
ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่ได้เป็นคนที่ยึดเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่อยู่แล้ว
แค่ทำไมต้องเป็นลิงด้วย คนอื่นยังเป็น สไปซ์เกิลได้เลย
แต่ลองอาจารย์แต่งตั้งให้แล้วมันก็คงจะมีเหตุผลอยู่บ้างแหละ
เลยเอามาให้ดูกันทั้งสองด้านอาจมีบางอย่างที่คล้ายกัน
รูปขวาจะออกแนว modern นิดหน่อย แต่ทางด้านซ้าย
น่าจะเป็น postmodern นะครับ.

25 พฤศจิกายน 2550

"Understanding of Asian culture"

นี่เป็นอีเมล์ที่ผมได้รับมาจากเพื่อนๆผมส่งมาให้
เห็นแล้วก็รู้สึกชอบดี ดูคนที่ทำงานนี้มาเค้าต้องการ
จะบอกอะไรเราสักอย่าง จึงอยากให้คนอื่นๆได้เห็นกันบ้าง
และที่สำคัญคนทำงานนี้รู้สึกว่าจะเป็นคนจีน
ที่ไปเรียนที่ต่างประเทศด้วยเป็นมุมมองมุุมหนึ่ง
ของนักออกแบบที่อย่างน้อยเค้าก็ไม่ได้มองอะไรด้นเดียว
อย่างน้อยก็มีสองด้านแล้วละคับ
ผมว่าเค้าไม่ค่อยตอแหลดี
"สีนำ้เงินคือฝรั่ง สีแดงคือเอเซีย"