06 มกราคม 2551

สวัสดีปีใหม่!!!!2551

คงไม่ช้าเกินไปที่จะกล่าวคำว่าสวัสดีปีใหม่กับทุกๆคน เนื่องจากตอนช่วงเทศกาลปีใหม่นั้นผมค่อนข้างที่จะห่างหายไปจากเพื่อนๆเกือบทุกปีครับ เพราะทุกๆปีใหม่ก็จะมีเพื่อนๆมากมายที่จะโทรมาตามหรือโทรมาชวนไปเที่ยว ไปปาร์ตี้ที่ต่างๆ แต่ผมไม่เคยได้ไปกับใครหรอกครับ เพราะทุกปีผมจะเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดครับ ก็คือที่สุราษฏร์ธานี สถาบันครอบครัวต้องมาก่อนครับบบ เพราะไม่งั้นก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาเรียนครับบบบบ การเดินทางกับผมนั้นเป็นเรื่องที่อยู่คู่กันมาตั้งนานแล้วตั้งแต่เด็ก การที่ต้องนั่งรถสักวันหรือครึ่งวันนั้นเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผม แต่มันอาจเป็นเรื่องที่น่าเบื่อสุดๆสำหรับใครบางคน "ตนเราไม่เหมือนกันครับ"มันเป็นคำสรุปง่ายๆที่ใช้ได้จริงในการที่จะยุติข้อโต้แย้งระหว่างทัศนะคติของคนขึ้นไปที่ไม่เหมือนกันเสมอ
แต่การเดินทางของผมนั้นมันทำให้ผมได้เห็นได้ผ่านตา อะไรหลายๆอย่าง บางอย่ามันก็น่าจดจำ บางอย่างก็ดูน่าสนใจแต่ก็ไม่เห็นอยากจดจำ จนมาถึงปัจจุบันนั้น การจะเดินทางแต่ล่ะครั้งของผมนั้นมันเริ่มมีเหตุผลอื่นๆเข้ามาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจที่จะเลือกวิธีการเดินทางหรือช่วงเวลาที่ต้องการจะเดินทาง เพื่อที่จะทำให้ผมได้บังเอิญเจอกับบางสิ่งบางอย่างที่ตั้งใจไว้ ผมว่าความบังเอิญมันสามารถสร้างขึ้นเองขึ้นเองได้น่ะครับ แต่มันก็จะได้แค่เหมือนมากๆแค่นั้นครับ อย่างเช่นตอนนี้ผมทำงานcomDsignอยู่ ตอนนี้ผมมีความสนใจกับสิ่งบางสิ่งอยู่ มันคือป้ายบอกทางป้ายลูกศรที่เอาไว้ชี้บอกทาง ผมเคยเริ่มสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มาสักพักใหญ่ๆแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรกับมันสักที ตอนนั้นผมได้ไปคาร์ฟูแถวพระราม4 แล้วก็ต้องวนรถหาที่จอดจนต้องขึ้นไปจอดชั้นบนสุด เมื่อมองจากมุมที่อยู่ด้านบนของลานจอดรถมองลงไปข้างล่างมันทำให้ผมได้พบเจอกับป้ายบอกทางที่ให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยขวาในรูปแบบฟอร์มที่คล้ายๆกันคือสีเหลืองดำแต่ด้วยมุมมองหรืออะไรสักอย่างมันทำผมเห็นลูกศรชี้ไปในทิศทางต่างๆมากมาย ทำให้เรารู้สึกงงในการที่จะต้องการหาป้ายสักอันเดียวเพื่อจะบอกทางในทางที่เราจะไป ทำให้ผมึคิดได้ว่าการที่มีป้ายบอกทางมันทำหน้าที่ของมันอยู่แล้ว แต่เมื่อไหร่ที่มันมาอยู่รวมกันมากๆมันก็ทำให้เกิดอาการสันสนได้เหมือนกันแทนที่จะบอกทาง มันอาจทำให้เข้าใจผิดไปอีกทางนึงเลยก็ได้ มันเป็นความบังเอิญที่น่าสนใจดี ตอนนี้ผมต้องการที่จะให้ความบังเอิญเจอสิ่งๆแปลกช่วยกันเข้ามาหาผมหน่อย ต้องการความบังเอิญอีกมากมาย เพื่อนนำมาทำงาน แต่ช่วงเวลาที่ผมหาความบังเอิญเหล่านั้นด้วยการเดินเท้าออกไปข้างนอกแบบไร้ซึ่งเป้าหมาย ด้วยความคิดว่าจะเจอกับความบังเอิญ ทำอยู่ได้ประมาณอาทิตกว่าๆ แต่มันเหมือนไม่คุ้มกันเลยกับความเหนื่อย เราน่าจะหาตีมในการหาสิ่งต่างๆเหล่านั้นมันน่าจะดีกว่า มันก็ทำให้ได้รู้ว่าหากเราใช้สมองไปเป็นเครื่องมือให้กับโชคชะตา
และอาศัยความตั้งใจอีกหน่อยมันก็น่าจะเจอกับอะไรดีๆในชีวิต


ไม่มีความคิดเห็น: